สิ่งที่มองหาในการอยู่รอดและเติบโตกับยุค New Normal
แนวโน้มอุตสาหกรรมการพิมพ์ ที่อยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทั้งเทคโนโลยี ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป และต้องปรับตัว ปรับแนวคิดและการส่งต่อกิจการไปสู่รุ่นต่อไป เห็นชัดสุดในบ้านเรานั้นช่วงโควิด-19 ระบาดที่ผ่านมานั้นอุตสาหกรรมการพิมพ์ในส่วนของบรรจุภัณฑ์ยังไปได้ดี แต่ก็มีหลายรายโดนผลกระทบอย่างปฎิเสธไม่ได้ และตอนนี้เรารู้รึยังว่าควรต้องปรับตัวอย่างไรไปทางไหนดี ผู้เขียนขออ้างอิงแนวโน้มเมกะเทรนกับเศรษฐกิจไทยจากธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ดูแลนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศ ธปท. จึงตระหนักถึงความสําคัญของบริบทโลกในอนาคต (Mega trends) ว่าจะมีผลต่อ เศรษฐกิจไทยอย่างไร ทั้งนี้ มีการศึกษามากมายที่ได้สรุป Mega trends ของโลกไว้ แต่การศึกษาที่วิเคราะห์ผลของ Mega trends โยงมาสู่เศรษฐกิจไทยยังไม่เห็นเท่าไรนัก บทความนี้จึงพยายามเสนอประเด็นชวนคิดเกี่ยวกับ Mega trends ที่จะมีผลต่อ เศรษฐกิจไทยผ่านช่องทางการผลิตของธุรกิจ การทํางานของแรงงาน การซื้อของ ของผู้บริโภค รวมถึงบทบาทภาครัฐ โดยรวมแล้วมี 6 Mega trends ที่ไทยควรให้ ความสําคัญ (รูปที่ 1) ในบทความนี้ขอคัดส่วนที่น่าสนใจและจะชี้ประเด็นให้เห็นชัดขึ้นว่าเราควรตระหนักและเตรียมพร้อมที่จะก้าวไปกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งบางอย่างผู้เขียนเองมีความเห็นว่าเรานำสิ่งที่เคยทำเคยทราบอยู่แล้วแต่ยังไม่ได้นำมาใช้อย่างจริงจังมาปัดฝุ่นใหม่ปรับแต่งให้เครื่องจักรทำงานเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เข้าถึงลูกค้าของเราได้อย่างไร
5MegaTrends.pdf (bot.or.th) https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/EconomicConditions/AAA/5MegaTrends.pdf
6 Mega trends ที่มีความสําคัญต่อเศรษฐกิจไทย แบ่งเป็น 3 Trends ที่เกิดจาก การเปลี่ยนแปลงในไทย ได้แก่ สังคมผู้สูงอายุ ความเป็นเมือง ความเป็นปัจเจกบุคคล และอีก 3 Trends ที่มีผลจากการเปลี่ยนแปลงนอกประเทศ ได้แก่ เทคโนโลยีนวัตกรรม การเปลี่ยนขั้วทางเศรษฐกิจและการเมืองโลก และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โดย มี 2 จาก 6 Mega trends ที่ไทยต้องรีบเตรียมการรับมือ ได้แก่ สังคมผู้สูงอายุและ เทคโนโลยีนวัตกรรม เพราะเป็น Mega trend ที่โยงถึงจุดอ่อนของโครงสร้าง เศรษฐกิจไทย โดยไทยจะแก่ก่อนรวยและการปรับตัวอาจไม่ทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว
ซึ่งเทรนที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการพิมพ์นั้นก็ไปตามเทรนที่จะเกิดขึ้นเช่นกัน ทั้งสังคมผู้สูงอายุที่มองไปแรงงานที่จะขาดแคลนเพิ่มขึ้น คนที่จบในสายงานแต่ไม่เข้ามาในระบบไปทำงานแบบอื่นแทน พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่มีแนวความคิดในการเลือกอาชีพหรือความสนใจไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว รวมทั้งความเป็นไปได้ที่ประเทศข้างเคียงก็สามารถดึงแรงงานกลับได้เช่นกันหรือมีตัวเลือกมากขึ้นในประเทศที่มีโอกาสใหม่เช่นเวียดนามที่อาจมีการดึงแรงงานในอนาคต แต่ผู้ที่สูงอายุต่อไปซึ่งคนอายุ 55-60 ปีเองซึ่งในปัจจุบันมีการดูแลตัวเองและยังแข็งแรงสามารถทำงานแต่ต้องมีเทคโนโลยีและเครื่องทุ่นแรงบ้างเรียนรู้สิ่งใหม่ๆตรงนี้ต้องปรับวิธีคิดให้อยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เทคโนโลยีบางอย่างนำมาใช้อย่างเหมาะสม ซึ่งประเทศไทยเองในอุตสาหกรรมการพิมพ์ มีการนำเทคโนโลยีรวมทั้งมาตรฐานต่างๆอย่างมากมายมาประยุกต์ใช้มาเป็นเวลามากกว่า 20-30ปี หลายอย่างที่เคยทำแล้วไม่ได้ผลใช้งานอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ เราสามารถนำมาปัดฝุ่นใหม่และนำเทคโนโลยีใหม่มาผนวกต่อจิ๊กซอร์เพื่อให้ได้งานทำงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่สูงขึ้น ซึ่งตอนนี้การทำงานมีเครื่องไม้เครื่องมือมาช่วยเพื่อเราเลือกหยิบจับมาให้ถูกที่ถูกทาง ก็ไม่ต้องลงทุนเครื่องจักรใหม่ทั้งหมด เช่นปรับเครื่องพิมพ์ให้เป็น ออโตเมชั่นมากขึ้นซึ่งในอ๊อฟเซ็ตจะมีให้เลือกหลากหลายทั้งของเครื่องพิมพ์เองหรือเป็นยี่ห้ออิสระใช้ได้กับทุกยี่ห้อ แต่ที่มาตกม้าตายคือเมื่อไปใช้งานจริงกับทำได้ยากเนื่องจากการประสานงานกันระหว่างพรีเพลสและส่วนของเครื่องพิมพ์ไม่สัมพันธ์กัน หรือช่างติดที่จะปรับตามประสบการณ์ของตนเองอยู่ CIP3/4 การนำมาตรฐานจัดการการพิมพ์มาใช้อย่างจริงจังและให้ความเข้าใจแก่ผู้ปฏิบัติงานซึ่งทุกคนบอกว่ารู้แล้วแต่ไม่นำมาใช้ในการปรับตัวทำออโตเมชั่นก็จะเกิดได้ยากมากเพราะการทำได้ต้องมีการตรวจวัดเช็คค่ากลับ ตีความค่าที่วัดได้ว่าปัญหาที่เกิดมีอะไรบ้าง ซึ่งวัตถุประสงค์ในการลงทุนก็ต้องคำนึงการลดต้นทุน ลดของเสีย ลดเวลา ใช้คนอย่างมีประสิทธิภาพทำงานแทนกันได้ เพิ่มประสิทธภาพการพิมพ์ให้ดีขึ้น
Rutherford เป็นหนึ่งในระบบปรับแต่งเครื่องพิมพ์ออฟเซ็ต ให้ควบคุมอิงค์คีย์อัตโนมัติซึ่งจะปรับตามค่ามาตรฐานที่กำหนดให้เขาทำและเรียนรู้การปล่อยหมึกแต่ละอิงค์คีย์ทุกครั้งที่บันทึกให้ซอร์ฟแวร์เรียนรู้ โดยช่างเทคนิคต้องมีความเข้าใจ ใส่ใจและนำค่าไปใช้ต่อเพื่อปรับปรุงข้อมูลของ Pre-Press ให้สัมพันธ์กับแผนกพิมพ์อีกต่อนึง นอกจากการปรับเครื่องอัตโนมัติตอนทำการเซ็ตเครื่องพิมพ์ตามงานที่ปรู๊ฟไว้ (Pre-set) และทำการปรับอิงค์คีย์อัตโนมัติให้ได้ค่าสี ค่าความดำ (Density) ในระหว่างเดินการพิมพ์จริง (close loop system) งานเรื่องสีระบบด้วยดูแลและช่างพิมพ์ยังสามารถมีเวลาในการดูแลเตรียมงานพิมพ์เตรียมเครื่อง รวมถึงดูแลเครื่องพิมพ์ส่วนอื่นได้
รูปที่ 2 Rutherford ระบบที่ปรับแต่งเครื่องพิมพ์ให้ทำงานปรับอิงค์คีย์อัตโนมัติ ช่วยในการทำระบบ Preset และ Close loop
ซึ่งตอนนี้การทำงานของแบรนด์ใหญ่ๆก็ต่างออกไปจากเดิมซึ่งนำค่าสีดิจิทัลหรือค่าสีที่เป็นตัวเลข เช่นนำ PantoneLive มาใช้ในการระบุค่าสีของบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการ และให้รายงานผลการตรวจเช็คคุณภาพสีการพิมพ์ที่ได้ผ่านระบบคลาวด์ (ColorCert) ซึ่งเป็นการควบคุมและประเมินคุณภาพการผลิตทั้งระบบซับพายเชนหรือพูดง่ายๆมาควบคุมผู้ผลิตทั้งระบบ ซึ่งข้อมูลจะถูกนำมาประเมินผลการทำงานออกมาเป็นคะแนนเปรียบเทียบให้เห็นทั้งระบบ อันนี้เป็นการประเมินในส่วนของวัสดุ สีงานพิมพ์ และกราฟฟิครูปลักษณ์ภายนอกของงานพิมพ์ตรงนี้หลายคนสงสัยว่าได้ประโยชน์อะไรที่แน่ๆลดค่าใช้จ่ายในการตรวจบรู๊ฟที่ต้องส่งไปส่งกลับหรือให้คนเดินทางมาเช็คงานหน้าเครื่อง ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่ากลุ่มลูกค้าของเราคือใครมีพฤติกรรมในการทำงานเหมือนหรือแตกต่างจากเดิมอย่างไรซึ่งการรู้ถึงเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้กันก็เป็นการเตรียมตัวเมื่อถึงเวลาต้องใช้ก็ควรรู้ด้วยว่าสิ่งที่คนของเราต้องเตรียม ขั้นตอนการทำงานที่ยังต้องปรับปรุงซึ่งในบางกรณีอาจจะต้องปรับการทำงานหรือวิธีคิดให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง และการทำงานในยุค New Normal ที่คนทำงานในบางฟังก์ชันสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ผ่านระบบคลาวด์เพียงมีอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อระบบได้ ซึ่งระบบนี้เป็นทั้งการลดขั้นตอนและเพิ่มความเร็วในการทำงานให้เร็วขึ้นสามารถตรวจเช็คตั้งแต่งานหน้าบ้านที่ฝ่ายขายขายงานลูกค้าหรือประสานงานกับเอเจนซี่ เช็คประมวลงานในระบบส่งต่องานให้กับหลังบ้านส่งมอบงานให้ลูกค้า รวมถึงผู้บริหารสามารถมอร์นิเตอร์การทำงานทุกฟังก์ชั่น การพัฒนาระบบแพลทฟอร์มขึ้นมารองรับ แต่สิ่งสำคัญต้องมีการเตรียมป้อนข้อมูลอย่างถูกต้องเหมาะสมระบบ ERP จะนำมาใช้งานอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นซึ่งทำให้ประสานงานทุกฟังก์ชันไม่ใช่ส่วนใดส่วนหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ต้องมีการปรับทั้งการทำงาน วิธีคิดรวมถึงวัฒนธรรมการทำงานของแต่ละที่ที่อย่างจะต้องพัฒนาทั้งสองส่วนให้สอดคล้องกันทั้งตัวแพลตฟอร์มเองและตัวองค์กรเอง แต่สิ่งหนึ่งคือในการทำงานจะมีรูปแบบมาตรฐานมากขึ้นด้วย (Manufacturing Execution System for Industry 4.0, W W W . S I S T R A D E . C O M และ BJC Official, รูปที่ 3) ซึ่งเป็นการนำข้อมูลที่มีในแต่ละแผนกที่ต่างคนต่างอยู่มาเชื่อมต่อและวิเคราะห์ออกมาให้เป็นในทิศทางเดี่ยวกัน ทำให้ตรวจสอบข้อมูลแสดงผลวิเคราะห์ข้อมูลและมอร์นิเตอร์ทั้งระบบได้ชัดเจนขึ้น
รูปที่ 3 แนวคิดการนำระบบ ERP มาใช้ในอุตสากรรมการพิมพ์หนึ่งในการพัฒนาไปสู่ อุตสาหกรรม 4.0
ในการปรับตัวนั้นตัวเราเองต้องเข้าใจและยอมรับว่าสิ่งที่เราแข็งแกร่ง แต่อย่างมองข้ามจะเข้าใจผิดว่าจุดที่แข็งแกร่งของเรามันกลายเป็นจุดด้อยไปแล้ว และจุดที่ยังต้องปรับปรุงอยู่นั้นคืออะไร ซึ่งในการปรับตัวเราสามารถปรับแต่งจากสิ่งที่มีอยู่ได้หรือไม่ และอะไรควรขยับตัวก่อนเพื่อไม่ต้องลงทุนสูงเกินไปและนำมาใช้ให้เต็มประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ประสิทธิผลที่สูงสุดโอกาสในอุตสาหกรรมการพิมพ์บ้านเรายังแข็งแรง แต่คู่แข่งในประเทศชาติข้างเคียงก็น่ากังวลอยู่ซึ่งเราก็ควรเตรียมรับมือหากลุ่มลูกค้าของเรา และการที่อุตสาหกรรมอื่นถูกโยกย้ายหรือไปลงทุนที่อื่นแล้วนั้นก็เป็นการเสียโอกาสที่จะเพิ่มลูกค้าของเราเช่นกัน ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสของให้เราเตรียมพร้อมก็จะผ่านและเติบโต ซึ่งบางเจ้าจับกลุ่มลูกค้าถูกก็เติบโตอย่างก้าวกระโดด

บทความโดย
ดร.ยุวดี เที่ยงทางธรรม
นักวิชาการพิเศษ สมาคมการค้านวัตกรรมการพิมพ์ไทย
ผู้จัดการฝ่ายขาย อินโดไชน่า บริษัท X-Rite Asia Pacific Limited